รับซื้อเศษเหล็ก 089 065 2194 รับซื้อทุกชนิดทุกประเภทของเหล็ก
ราคารับซื้อเศษเหล็ก แยกออกเป็นแต่ละประเภท ราคารับซื้อจะไม่เท่ากัน ตามราคาที่แสดงด้านล้าง
ประเภทเหล็กและราคาที่รับซื้อเศษเหล็ก ราคารับซื้ออาจขึ้นลงตามราคากลาง
1. เหล็กหนา ราคา 5.0/ ก.ก. บาท
2. เหล็กบาง ราคา 6.0/ ก.ก บาท
3. เหล็กเส้น ราคา 6.3/ก.ก บาท
4. เหล็กท่อ ราคา 8.0/ก.ก บาท
5. เหล็กตัน ราคา 12.0/ก.ก บาท
6. เหล็กกล่อง ราคา 9.0/ก.ก บาท
7. ขี้เหล็กกรึง ราคา 5.0/ ก.ก บาท
8. เหล็กรวม ราคา 9.5/ก.ก บาท
หมายเหตุ: ราคารับซื้อเศษเหล็กแต่ละวันอาจไม่เท่ากันราคามีขึ้นมีลง แนะนำลูกค้าให้โทรสอบถามราคารับซื้อเเหล็กแต่ละชนิดก่อนเพื่อความสะดวก.
ประเภทของเหล็กที่ไม่รับซื้อ
- โครงเหล็กเต้นท์
- ฝาท่อเหล็ก
- ถังแก๊ส
- ชิ้นส่วนเหล็กเสาไฟฟ้าแรงสูง
- สะพานเหล็ก
- ท่อประปาเหล็ก
- ฝาท่อประปาเหล็ก
- หม้อแปลงไฟฟ้า
- เรือปลดประจำการ
คำแนะนำ: ถ้าลูกค้าไม่แน่ใจว่าเหล็กที่จะนำมาขายนั้น ว่าทางร้านรับซื้อหรือไม่กรุณาโทรสอบถามก่อนนะครับ
บทความชนิดและประเภทของเศษเหล็ก
เศษเหล็ก (Scrap Metal) เป็นวัสดุที่ได้จากกระบวนการผลิต การใช้งาน หรือการเลิกใช้งานวัตถุที่ทำจากโลหะ เศษเหล็กสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยการรีไซเคิล มีการแบ่งประเภทเศษเหล็กออกเป็นหลายชนิด ตามลักษณะและแหล่งที่มา ดังนี้:
ชนิดของเศษเหล็ก
1. เศษเหล็กหนา (Heavy Melting Steel - HMS)
- HMS 1: เป็นเศษเหล็กหนาที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นโลหะผสมอื่น ๆ หรือสิ่งเจือปน เช่น เศษเหล็กจากโครงสร้างอาคาร เครื่องจักรหนัก เหล็กรางรถไฟ
- HMS 2: เป็นเศษเหล็กที่มีความบางกว่าหรือมีสิ่งเจือปนเล็กน้อย เช่น เศษเหล็กจากเครื่องใช้ในบ้าน เหล็กกล้าคาร์บอน
2. เศษเหล็กเบา (Light Melting Steel - LMS)
- เป็นเศษเหล็กที่มีขนาดและความหนาบางเบา เช่น เศษเหล็กจากกระป๋องเครื่องดื่ม เศษเหล็กจากแผ่นหลังคา
3. เศษเหล็กหล่อ (Cast Iron Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่ได้จากการทุบทำลายหรือเลิกใช้งานวัตถุที่ทำจากเหล็กหล่อ เช่น ส่วนประกอบของเครื่องจักร เครื่องมือ เหล็กหล่ออุตสาหกรรม
4. เศษเหล็กสแตนเลส (Stainless Steel Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่มีส่วนผสมของโครเมียม นิกเกิล และโมลิบดีนัม ที่ทำให้เหล็กมีคุณสมบัติต้านทานการเกิดสนิม เช่น เศษเหล็กจากเครื่องใช้ในครัว เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์โรงงาน
5. เศษเหล็กพิเศษ (Special Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่มีส่วนผสมของโลหะอื่น ๆ ที่ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น เหล็กผสมอะลูมิเนียม นิกเกิล โคบอลต์
ประเภทของเศษเหล็ก
1. เศษเหล็กจากการผลิต (Manufacturing Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่ได้จากกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เศษเหล็กจากการตัด การเจาะ การกลึง
2. เศษเหล็กจากการใช้งาน (Post-Consumer Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่ได้จากการใช้งานของผู้บริโภคที่หมดอายุการใช้งาน เช่น เศษเหล็กจากรถยนต์ที่ถูกทุบทำลาย เครื่องใช้ไฟฟ้า
3. เศษเหล็กจากการก่อสร้าง (Construction and Demolition Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่ได้จากการก่อสร้างและการทุบทำลายอาคาร เช่น เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กรูปพรรณ
4. เศษเหล็กจากการรื้อถอน (Obsolete Scrap)
- เป็นเศษเหล็กที่ได้จากการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างหรือวัตถุที่ไม่ใช้งานแล้ว เช่น เครื่องจักรเก่า รถไฟเก่า
ธุรกิจรับซื้อเศษเหล็กจะทำการแยกประเภทและชนิดของเศษเหล็กเ แล้วส่งไปยังศูนย์รีไซเคิล หลังจากนั้นทางศูนย์รีไซเคิลจะจัดการตามกระบวนการหลอมเหล็ก การนำเศษเหล็กนำกับมาใช้ใหม่นั้น ช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.
ขั้นตอนและกระบวนการรับซื้อเศษเหล็ก
การรับซื้อเศษเหล็กเพื่อนำกับมาใช้ใหม่นั้น มีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกันอยู่หลายขั้นตอน ตั้งแต่การรวบรวมเศษเหล็กไปจนถึงการนำส่งโรงงานรีไซเคิล เพื่อให้การจัดการเศษเหล็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการรับซื้อเศษเหล็กโดยทั่วไปประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนและกระบวนการรับซื้อเศษเหล็ก
1. การรวบรวมเศษเหล็ก (Collection)
- การรวบรวมเศษเหล็กสามารถทำได้จากหลายแหล่ง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ก่อสร้าง ศูนย์รับซื้อของเก่า และการเก็บรวบรวมจากครัวเรือน
2. การคัดแยกและคัดเกรด (Sorting and Grading)
- เศษเหล็กจะถูกคัดแยกตามประเภทและคุณภาพ เพื่อให้การรีไซเคิลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การคัดแยกอาจรวมถึงการแยกเศษเหล็กหนา เศษเหล็กบาง เศษเหล็กหล่อ และเศษเหล็กพิเศษ
- การคัดเกรดเศษเหล็กจะช่วยให้สามารถกำหนดราคาที่เหมาะสมสำหรับเศษเหล็กแต่ละประเภท
3. การตรวจสอบและประเมินราคา (Inspection and Pricing)
- เศษเหล็กจะถูกตรวจสอบเพื่อประเมินคุณภาพและน้ำหนัก โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
- การประเมินราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของเศษเหล็ก รวมถึงราคาตลาดโลหะในปัจจุบัน
4. การจัดเก็บและการเตรียมการขนส่ง (Storage and Transportation Preparation)
- เศษเหล็กจะถูกจัดเก็บในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อรอการขนส่งไปยังโรงงานรีไซเคิล
- การเตรียมการขนส่งอาจรวมถึงการบรรจุในภาชนะหรือรถบรรทุกที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญเสียและความเสียหาย
5. การขนส่ง (Transportation)
- เศษเหล็กจะถูกขนส่งไปยังโรงงานรีไซเคิลโดยใช้ยานพาหนะที่เหมาะสม การขนส่งอาจรวมถึงการใช้รถบรรทุก รถพ่วง หรือการขนส่งทางรถไฟ
6. การชั่งน้ำหนักและการชำระเงิน (Weighing and Payment)
- เมื่อเศษเหล็กถึงโรงงานรีไซเคิล จะถูกชั่งน้ำหนักอีกครั้งเพื่อยืนยันปริมาณที่แน่นอน
- หลังจากนั้นจะทำการชำระเงินตามที่ตกลงไว้ โดยอาจเป็นเงินสดหรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร
การดำเนินการรับซื้อเศษเหล็กอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพช่วยให้กระบวนการรีไซเคิลโลหะเป็นไปอย่างราบรื่น
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า.